บทสัมภาษณ์นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชร (Cover Story) | นิตยสารอะชีฟ ฉบับมกราคม 2566

ในวันเริ่มต้นชีวิตการทำงานทั้ง น.ต.เอกนรินทร์ (ต้น) โคกพูล และ น.ท.หญิง กรรณิการ์ (เอื้อง) กันธิยะ ต่างมีฝันสวยงามยิ่งใหญ่ แต่ความจริงในงานประจำก็ทำให้ฝันของทั้งคู่เล็กลงเรื่อยๆ จนเมื่อได้พบกับธุรกิจแอมเวย์จากอัพไลน์ซึ่งเป็นคนแปลกหน้า และได้เห็นภาพการท่องเที่ยวที่คุณหนึ่ง-คุณดื้อ (คุณชลธีร์ แก้วมณีสกุล - คุณรัตนพร วชิรบัญชร นธอ.ระดับเพชรคู่) เปิดให้ดู “ผมถามพี่หนึ่งว่า...บ้านพี่เป็นสุลต่านรึเปล่า หรือหลังบ้านมีบ่อน้ำมัน ทำไมพี่เที่ยวบ่อยจัง” เมื่อได้คำตอบว่าผู้เปิดโอกาสทำธุรกิจหนึ่งจึงได้ท่องเที่ยวเป็นประจำ คุณต้นก็ถามว่า “พี่ทำอะไรผมทำด้วยได้ไหม... ถามไปถามมา รู้ตัวอีกทีผมก็อยู่ที่เซนเตอร์แล้ว (หัวเราะ) ยิ่งได้ฟังแผนธุรกิจก็รู้สึกว่าดี ทำให้เริ่มศึกษาธุรกิจตั้งแต่วันนั้นครับ”

จากนั้นคุณต้นจึงชวนคุณเอื้องเข้าเรียนรู้ธุรกิจด้วย พร้อมจับมือกันก้าวไปบนเส้นทางซึ่งไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ! “เมื่อก่อนฉายาผมคือไทยไฟต์บนท้องถนน ใจร้อนมาก ขี้โมโห ขี้หงุดหงิดครับ ถ้าไม่ได้ทำธุรกิจนี้อาจเป็นคนหนึ่งที่ได้ออกรายการเฮียขับรถ (หัวเราะ)” คุณเอื้องบอกด้วยรอยยิ้มว่า “แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ” นั่นเพราะคุณต้นได้เรียนรู้ว่าจะสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ต้องเป็นคนดีก่อน “ผมรู้สึกว่า ถ้าเราเป็นคนที่ดีขึ้นก็จะสำเร็จมากขึ้น เมื่ออยากสำเร็จ เราต้องเปลี่ยนแปลงตามที่อัพไลน์สอน ประกอบกับการอยู่ในบรรยากาศได้เห็นคนอื่นเปลี่ยนแปลง ทำให้เราเรียนรู้ว่าเราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองยังไง บรรยากาศในที่ประชุมเป็นตัวหล่อหลอมเราครับ”

ในวันที่ทั้งคู่ตัดสินใจเป็นเพชร ฟ้าก็ส่งบททดสอบมาให้ “ตอนนั้นต้นไปขยายธุรกิจที่ออสเตรเลีย พอดีเกิดโควิด ทางการออสเตรเลียสั่งปิดประเทศ ปิดสนามบิน และปิดการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศทุกช่องทาง กลับไทยไม่ได้ก็เลยติดอยู่ที่ออสเตรเลีย 2 ปี เอื้องต้องดูแลธุรกิจที่ไทย ส่วนต้นขยายธุรกิจอยู่ที่ออสเตรเลีย อเมริกา แล้วก็เข้า Meeting Online ที่ไทย ทำ 3 ประเทศพร้อมกันผ่าน Online ค่ะ” จากไม่เคยแยกห่างกลับต้องยืนหยัดลำพัง “ต้องสู้กับใจตัวเองค่ะ เอื้องชอบที่พี่ดื้อบอกกับเราว่า 2 ปีที่เราห่างกันจะต้องไม่สูญเปล่า วันที่กลับมาเจอกันเราจะได้กอดกันแน่นๆ และเอาความสำเร็จมาแลกกัน (ยิ้ม)”

วันนี้พวกเขาพร้อมที่จะจับมือกันก้าวต่อ “เราตั้งใจทำให้ทุกคนในองค์กรมีมุมมองชีวิตแบบมีความสุขในทุกขณะค่ะ” คุณเอื้องบอก คุณต้นให้บทสรุปว่า “ธุรกิจนี้คือ People Business ไม่มีใครอยู่ร่วมกันได้ด้วยผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว เราต้องดูแลกันด้วยความรัก ทุกคนคือเพื่อน พี่ น้อง การทำงานของเราคือการ sharing การเสียสละ ทุกคนในองค์กรเป็นเหมือนคนในครอบครัวครับ และเราเชื่อว่าเราจะสำเร็จมากขึ้นถ้าเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ถ้าเราเป็นคนไม่ดี ทำสิ่งไม่ดี สุดท้ายธรรมชาติจะดึงเราลงมายังจุดที่ควรเป็น เราจึงเน้นการเป็นคนดีขึ้นในทุกๆ วัน ความสำเร็จไม่ได้ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นครับ แต่การที่เราเป็นคนที่ดีขึ้นต่างหากที่จะทำให้เราไปถึงความสำเร็จ” (ยิ้ม)

ลำดับขั้นความสำเร็จ

สมัคร	มิถุนายน 2548
ระดับแพลตินัม	เมษายน 2555
ระดับทับทิม	มิถุนายน 2556
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา	สิงหาคม 2556
ระดับไพลิน	มิถุนายน 2560
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา	มิถุนายน 2562
ระดับมรกต	กรกฎาคม 2560
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา	สิงหาคม 2563
ระดับเพชร	สิงหาคม 2564

ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบ เสียงระเบิด และกลุ่มควันขมุกขมัวที่เหมือนจะทำให้มองไม่เห็นสิ่งใด แต่ทั้งคุณซากียะห์ (แตง) และคุณอำมาน สะมะปุ ไม่ยอมแพ้ ยังพยายามค้นหาจนมองเห็นแสงแห่งความหวังจุดเล็กๆ ได้ในที่สุด

คุณแตงและคุณอำมานใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “เราฝันอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีค่ะ แต่พอมาทำงานจริงก็พบว่าอาชีพที่ทำอยู่ยังให้สิ่งที่ฝันไม่ได้” จนได้พบกับธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งคุณแตงมองว่าเป็นโอกาสจึงไม่ลังเลที่จะสมัคร แต่คุณอำมานกลับบอกให้ไปลาออก “ครอบครัวผมเป็นคนจนในหมู่บ้านเล็กๆ ครับ เราหาโอกาสที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นอยู่ตลอด แต่เราไม่เชื่อเรื่องการทำธุรกิจรูปแบบนี้เพราะไม่มีตัวอย่างคนสำเร็จให้เห็น จนฝังใจว่าไม่น่าจะมีใครสำเร็จได้จริง” แต่เพราะเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้ นอกจากคุณแตงจะไม่ลาออกแล้ว ยังพยายามชวนคุณอำมานให้เข้าร่วมประชุม เมื่อได้เห็นตัวอย่างคนสำเร็จซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ประกอบวิชาชีพเดียวกัน คุณอำมานก็เปลี่ยนความคิด “ผมเห็นเขาลาออกจากงาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี โพรไฟล์ของเขากับผมเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันอย่างเดียวคือเขาเลือกธุรกิจแอมเวย์ครับ (ยิ้ม)”

มีความเชื่อ มุ่งมั่น ตั้งใจเรียนรู้ เรียกว่ามีคุณสมบัติของคนสำเร็จครบครัน แต่สถานการณ์รอบตัวกลับไม่เป็นใจ ‘กลัว’ คือความรู้สึกทุกครั้งที่ต้องออกไปเรียนรู้และทำธุรกิจ “1 ทุ่มก็ปิดบ้านกันหมดค่ะ เรามีเวลาทำธุรกิจแค่ 3 ชั่วโมงหลังเลิกงาน ถ้าไปเรียนรู้ที่เซนเตอร์ในเมือง หากเลิกค่ำก็จะไม่กลับบ้าน กลัว จะค้างบ้านอัพไลน์บ้าง หาที่พักในเมืองบ้าง” ทั้งคู่ตัดสินใจสู้แบบหลังชนฝาด้วยการย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในเมือง ซึ่งนั่นหมายความว่าทุกวันพวกเขาต้องนั่งรถโดยสารเกือบ 80 กิโลเมตร เพื่อไปทำงาน “เพื่อให้ได้รับความสำเร็จเพิ่ม เรายอมแลกค่ะ เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจนี้จะเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จในชีวิตได้เร็วขึ้น”

ความสำเร็จดูเหมือนจะแพ้ทางความพยายาม แสงสว่างที่เคยเป็นเพียงจุดเล็กๆ จึงค่อยๆ เปล่งประกายเจิดจ้า “คนสำเร็จคือคนที่ไม่ยอมแพ้ครับ ช่วงแรกเรารู้สึกว่าโอกาสที่จะไปถึงความสำเร็จดูไกลเหลือเกิน อาศัยความเชื่อเป็นสิ่งหล่อเลี้ยง มุ่งมั่นให้ด้วยใจบริสุทธิ์ เรื่องที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ก็ค่อยๆ เป็นไปได้ขึ้นมา” วันนี้ความตั้งใจของทั้งคู่คือการมอบโอกาสเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงสังคมรอบตัว “เราอยากใช้ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือส่งต่อโอกาสให้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเราหวังว่าในอีก 10 หรือ 30 ปีข้างหน้า จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่เราอยู่เป็นไปในทางที่ดีขึ้นครับ (ยิ้ม)” สุขสำเร็จคือแนวทางที่ใช้สร้างชีวิต “สูตรสั้นๆ ของเราคือ สุขสำเร็จค่ะ มีความสุขก่อนแล้วความสำเร็จจะตามมา เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองว่าคุณทำได้ ฝังความรู้สึกนี้ลงไปในจิตใต้สำนึก เรียนรู้ ยืนหยัดและเดินบนเส้นทางนี้อย่างมีความสุข แล้วคุณจะไปถึงความสำเร็จได้แน่นอนค่ะ”

ลำดับขั้นความสำเร็จ

สมัคร	มีนาคม 2549
ระดับแพลตินัม	สิงหาคม 2552
ระดับทับทิม	กรกฎาคม 2555
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา	สิงหาคม 2553
ระดับไพลิน	เมษายน 2558
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา	มิถุนายน 2559
ระดับมรกต	พฤษภาคม 2558
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา	สิงหาคม 2560
ระดับเพชร	สิงหาคม 2564

ยิ่งกว่าเริ่มจากศูนย์ เพราะทั้งคุณวัชราพร (นกแก้ว) จำปา และคุณ วัชรพงษ์ (ตึ๋ง) คำอ่อน เริ่มต้นธุรกิจจากการติดลบบนกองหนี้หลักล้าน! พิษวิกฤติเศรษฐกิจในยุคต้มยำกุ้งทำให้ธุรกิจรับเหมาของคุณตึ๋งต้องสะดุดล้มไม่เป็นท่า แต่ทั้งคู่ก็สู้ไม่ถอยหันมาเปิดร้านรับทำป้ายและดูเหมือนฟ้าจะเมตตา เมื่อเจ้าของตึกที่ให้เช่านั้นทำธุรกิจแอมเวย์ คุณนกแก้วตัดสินใจสมัครเพราะอยากใช้สินค้าซึ่งคุณตึ๋งก็ไม่ได้คัดค้าน จนเมื่อรู้สึกว่าคุณนกแก้วมีบางอย่างแปลกไป คุณตึ๋งจึงตัดสินใจไปร่วมฟังธุรกิจเพราะตั้งใจไปจับผิด “วันนั้นคนที่นั่งฟังอยู่ข้างผมเป็นนายพล ผมแปลกใจว่าทำไมนายพลสละเวลามาฟังแสดงว่าธุรกิจนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ ผมก็เลยตั้งใจฟังแผนธุรกิจจนจบ ทำให้รู้ว่านี่คือธุรกิจแห่งการให้ที่เราน่าจะทำสำเร็จได้ครับ”

หลังจากนั้นทั้งคู่ตัดสินใจปิดกิจการร้านป้ายและขายรถซึ่งเป็นสินทรัพย์ในฝันไม่กี่ชิ้นที่เหลืออยู่เพื่อนำเงินมาเริ่มต้นสองสิ่ง หนึ่ง คือธุรกิจแอมเวย์ สอง คือขายเสื้อผ้าเด็กในตลาดนัดและย้ายบ้านมาอยู่ใกล้กับอัพไลน์ “เพราะผมเคยอ่านมาว่าถ้าอยู่ใกล้คนสำเร็จ เราจะมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นครับ” ไม่แค่อยู่ใกล้แต่ยังตั้งใจติดตามเรียนรู้ควบคู่กับลงมือทำ “ผมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ตั้งใจกับชีวิตมากขึ้น ผมคิดว่าทุกสิ่งอยู่ที่เรา ‘ตัดสินใจ’ ซึ่งคำนี้มาจาก การตัดสินคือเลือกว่าเราจะทำสิ่งนี้ และการตัดใจในบางเรื่อง อัพไลน์สอนเสมอครับว่าใครๆ ก็อยากเดินตามคนดี ผมจึงคิดได้ว่าจะเป็นคนสำเร็จได้ต้องเป็นคนดีด้วย”

น้ำหยดลงทุกวันหินยังกร่อน เมื่อทยอยใช้หนี้สินที่เคยกองสูงเป็นภูเขาจึงค่อยๆ ลดลง จนมาถึงวันที่หนี้ก้อนใหญ่ถูกใช้หมด “ภูมิใจมากค่ะ” คุณนกแก้วบอก “พูดได้เลยว่าทุกบาท 100% ที่เราเอาไปใช้หนี้มาจากธุรกิจนี้ค่ะ” ความจริงใจคือพื้นฐานสำคัญทั้งในการดำเนินชีวิตและทำธุรกิจ “หลักการของเราคือจริงใจและพูดความจริง เราแค่เล่าความจริงว่าสินค้านี้ดีต่อเรายังไง ธุรกิจนี้ทำแล้วได้อะไร หน้าที่เราคือเปิดเรื่องจริง เปิดโอกาส ส่วนจะตัดสินใจหรือไม่เป็นเรื่องของแต่ละคนค่ะ (ยิ้ม)”

และสิ่งที่ทั้งคู่ใช้ทำธุรกิจเพื่อพลิกชีวิตใหม่ก็คือ “หนึ่ง หาความรู้ สอง ลงมือทำจนเกิดทักษะ สาม สะสมประสบการณ์ ทักษะกับประสบการณ์ต่างกันครับ ทักษะจะทำให้คุณทำสิ่งนั้นได้ ประสบการณ์จะทำให้คุณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และสี่ สร้างนิสัยคนสำเร็จให้กับตัวเอง ขยัน สู้ไม่ถอย กัดไม่ปล่อย ไม่นอยด์ง่าย ตั้งใจเป็นคนดี สำเร็จแบบคนดี ผมว่าทั้งสี่เรื่องนี้สำคัญมากครับ” คุณตึ๋งบอก “นอกจากนี้ต้องปรับทัศนคติค่ะ” คุณนกแก้วเสริม “ไม่ว่าพบเจออะไรต้องมองมุมบวกให้ได้ ต่อให้ไม่บวกทั้งหมดก็ต้องลบให้น้อย เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ เชื่อว่าถ้าตั้งใจยังไงก็สำเร็จ ถ้าเหนื่อยก็แวะมากินส้มตำฝีมือนกแก้วเพิ่มกำลังใจได้ค่ะ (หัวเราะ) แล้วค่อยเดินต่อ ทำแบบไม่ถอยต้องไปถึงความสำเร็จได้แน่ค่ะ”

ลำดับขั้นความสำเร็จ

สมัคร	พฤษภาคม 2550
ระดับแพลตินัม	สิงหาคม 2551
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา	สิงหาคม 2552
ระดับไพลิน	มีนาคม 2555
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา	กรกฎาคม 2555
ระดับมรกต	เมษายน 2555
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา	กรกฎาคม 2563
ระดับเพชร	สิงหาคม 2564

“เฮาเป็นเพชรอีหลีบ่!” เป็นประโยคที่คุณปราโมทย์ (โมทย์) มูลโต และคุณอัจฉรา (แป๋ว) ป้องศรี ผลัดกันถามอีกฝ่ายเพื่อย้ำให้แน่ใจว่า แม้ไม่กล้าคิด ไม่กล้าฝัน แต่ในที่สุดพวกเขาก็พากันมาถึงจุดนี้จนได้

คุณแป๋วเติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจแอมเวย์และมีธรรมเนียมปฏิบัติคือ เมื่อลูกหลานคนใดจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องสมัครเข้าทำธุรกิจ แต่ในใจคุณแป๋ววันนั้นมองว่าธุรกิจนี้เป็นเพียงการขายสินค้าในแค็ตตาล็อก เธอจึงสมัครพอเป็นพิธีแล้วหลบลี้เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ เพื่อสานฝันอาชีพครู กระทั่งได้รู้จักคุณโมทย์ ช่วงนั้นทั้งคู่ลองทำธุรกิจอยู่ระยะหนึ่งแบบไม่จริงจัง จากนั้นก็ร้างลาธุรกิจไปกระทั่งมีครอบครัว มีลูก คุณแป๋วได้เป็นครูดังฝัน คุณโมทย์เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว แต่สองแรงทำก็ยังไม่พอจุนเจือครอบครัว 6 ชีวิต “เงินไม่พอใช้ค่ะ หนี้สินก็เริ่มมา เผลอแป๊บเดียวมีหนี้อยู่เกือบ 3 ล้าน ตอนนั้นตันไปหมด รถก็กำลังจะโดนยึด” คุณแป๋วเล่า ท่ามกลางทางตันเธอยังมองเห็นจุดเล็กๆ ที่มีแสงลอดเข้ามา “นึกขึ้นได้ว่าชีวิตที่อยากได้คือชีวิตคนสำเร็จในธุรกิจนี้ เลยชวนพี่โมทย์กลับมาทำอีกรอบ ต่อให้ไม่สำเร็จเราก็ไม่จนไปกว่าเดิม แต่ถ้าสำเร็จเราจะรอดนี่อาจเป็นทางรอดของเราค่ะ”

ทั้งสองเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้คู่กับลงมือทำ แม้จะตั้งใจแต่ดูเหมือนยังใช้ความพยายามไม่ถูกทาง “เราเน้นขายอย่างเดียวซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเพราะธุรกิจจะไม่ยั่งยืน” ในที่สุดเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจอย่างแท้จริงจึงถึงจุดเปลี่ยน “สิ่งเดียวที่อยากได้คือความสำเร็จ เราไม่เกี่ยงว่าอัพไลน์จะให้ทำอะไร รู้แค่ถ้าทำแล้วเป็นเพชรได้เรายอม (ยิ้ม) ไปๆ มาๆ ก็เห็นทางสว่างและมาถึงจุดนี้ค่ะ” คุณแป๋วบอก “เราไม่คิดว่าจะมาถึงได้ แต่ความเชื่อมันค่อยๆ สะสมมาตามเส้นทาง พอทำไม่หยุด ทำต่อเนื่องก็มาถึงจนได้ครับ” คุณโมทย์เล่าด้วยรอยยิ้ม วันที่หอบเงิน 3 ล้านไปปิดหนี้สหกรณ์ครู คุณแป๋วบอกว่า “ดีใจค่ะ สะใจด้วย (หัวเราะ) เงินที่ใช้หนี้ทุกบาทเป็นเงินจากธุรกิจนี้ วันนั้นเรารู้สึกขอบคุณตัวเอง ขอบคุณธุรกิจแอมเวย์ ขอบคุณทุกอย่างที่เข้ามา ถ้าไม่เจอธุรกิจนี้เรามองไม่เห็นเลยว่าอะไรจะทำให้เราหมดหนี้ค่ะ”

ปลดภาระหนักอึ้งออกไป ทั้งคู่จึงพร้อมแล้วที่จะเดินตัวปลิวสู่ความสำเร็จต่อ “สิ่งแรกที่จะทำให้สำเร็จในธุรกิจนี้คือความเชื่อครับ ถ้าเชื่อว่าทำได้ คุณก็จะทำได้ สองคือมีเป้าหมายในชีวิต และสามคือขณะที่คนอื่นกำลังสงสัยให้เรารีบลงมือทำ เราไม่ได้เก่งแต่เรามีความเชื่อ มีเป้าหมายเป็นแรงบันดาลใจที่ชัดเจน และลงมือทำต่อเนื่อง ไม่ว่าเพชรหรือตำแหน่งไหนในธุรกิจนี้มันอยู่ที่เดิมครับ ขอแค่เราทำไม่หยุด เดินทางต่อเนื่อง ในที่สุดก็จะไปถึงได้แน่ (ยิ้ม)” คุณแป๋วบอกว่าเธอเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ “มนุษย์เก่งที่สุดค่ะ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนตั้งมั่นตั้งใจต่อเนื่อง เป็นคนดีและเลือกทำในสิ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จ เลือกเข้าข้างความสำเร็จ ติดหนึบกับความสำเร็จ เหมือนมีแฟนค่ะ เกาะติดไว้ (หัวเราะ) ถ้าเราไม่ปล่อยมือจากความสำเร็จ เราก็จะได้รับผลลัพธ์คือความสำเร็จแน่นอนค่ะ”

ลำดับขั้นความสำเร็จ

สมัคร	พฤศจิกายน 2552
ระดับแพลตินัม	กันยายน 2559
ระดับทับทิม	มิถุนายน 2561
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา	มิถุนายน 2562
ระดับไพลิน	มีนาคม 2563
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา	กรกฎาคม 2563
ระดับมรกต	เมษายน 2563
ระดับเพชร	สิงหาคม 2564

---

---